หุ้น Sterling Infrastructure (STRL): ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานสหรัฐฯ กับโอกาสเติบโตในยุค Data Center

🔧 บริษัทนี้ทำอะไร?

Sterling Infrastructure, Inc. เป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐอเมริกา โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็นสามกลุ่มหลัก:

• E-Infrastructure Solutions: ให้บริการก่อสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และโรงงานผลิตที่มีเทคโนโลยีสูง
  
• Transportation Solutions: ดำเนินโครงการก่อสร้างและปรับปรุงระบบขนส่ง เช่น ถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานทางการบิน
  
• Building Solutions: ให้บริการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสำหรับภาครัฐและเอกชน
  

ในปี 2024 รายได้รวมของ Sterling Infrastructure อยู่ที่ $2.115 พันล้าน เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2023 คำนวณค่า CAGR ได้ 18% ในช่วง 2019 – 2024 โดยแบ่งตามกลุ่มธุรกิจดังนี้:

• E-Infrastructure Solutions: เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากโครงการศูนย์ข้อมูล
  
• Transportation Solutions: มีการเติบโตของรายได้ 24% สำหรับปี 2024 แม้ว่าในไตรมาสที่สี่จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  
• Building Solutions: รายได้เพิ่มขึ้น 1.1% ในปี 2024 แต่ลดลง 3% ในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากความชะลอตัวในตลาดที่อยู่อาศัยในบางพื้นที่

ตัวเลขอื่นๆที่น่าสนใจสำหรับผลประกอบการปี 2024:

• กำไรขั้นต้น: $426 ล้าน = 20%
  
• กำไรสุทธิ: $257.5 ล้าน หรือ $8.27 ต่อหุ้น
  
• กำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว: $189.9 ล้าน หรือ $6.10 ต่อหุ้น.

📈 อัปเดตผลประกอบการล่าสุด

ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ของ Sterling Infrastructure มีดังนี้:

• รายได้: $499 ล้าน เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
  
• กำไรขั้นต้น: 21% เพิ่มขึ้นจาก 18.9% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
  
• กำไรสุทธิ: $113.2 ล้าน หรือ $3.64 ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 182% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
  
• กำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว: $45.5 ล้าน หรือ $1.46 ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

🚀 โอกาสและกลยุทธ์ของบริษัท

• การเติบโตในตลาดศูนย์ข้อมูล: ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นทำให้ Sterling มีโอกาสขยายธุรกิจในส่วนนี้
  
• การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ: การลงทุนของรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐานเปิดโอกาสให้บริษัทขยายโครงการในกลุ่ม Transportation Solutions
  
• การขยายตลาด: การขยายบริการไปยังภูมิภาคใหม่ ๆ และการเข้าซื้อกิจการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท.

⚠️ ความเสี่ยง

• ความผันผวนของตลาดที่อยู่อาศัย: การชะลอตัวในตลาดที่อยู่อาศัยอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ในกลุ่ม Building Solutions
  
• การแข่งขันในอุตสาหกรรม: การแข่งขันจากบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งการตลาดและอัตรากำไร
  
• ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ: การชะลอตัวของเศรษฐกิจหรือการลดลงของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท.

🏁 คู่แข่งสำคัญในตลาด

• Bechtel Corporation: บริษัทก่อสร้างและวิศวกรรมขนาดใหญ่ที่มีโครงการทั่วโลก
  
• Fluor Corporation: บริษัทวิศวกรรมและก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญในโครงการขนาดใหญ่
  
• Jacobs Engineering Group: บริษัทที่ให้บริการด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างในหลากหลายอุตสาหกรรม

📊 แนวโน้มประมาณการทางการเงินปี 2025

บริษัท Sterling Infrastructure คาดการณ์ผลประกอบการในปี 2025 ไว้ดังนี้:

• รายได้ (Revenue): อยู่ในช่วง $2,000 – $2,150 ล้าน เท่าเดิมจากปี 2024
• อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin): อยู่ระหว่าง 21.0% – 22.0%

ด้านกำไรต่อหุ้น:

• EPS (กำไรต่อหุ้นปรับลด): คาดการณ์อยู่ที่ $6.75 – $7.25
• Adjusted EPS (กำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้ว): คาดไว้ที่ $7.90 – $8.40

📌 สรุป:

Sterling Infrastructure มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2024 โดยมีการเติบโตของรายได้และกำไรในหลายกลุ่มธุรกิจ การเติบโตในตลาดศูนย์ข้อมูลและการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดที่อยู่อาศัยและการแข่งขันในอุตสาหกรรม

ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจ