บทความแปล: 5 หุ้นเติบโตระยะยาวที่ผมเลือกถือยาวเกิน 5 ปี 🔥

แอดไปเจอบททความน่าสนใจมาครับ แล้วคิดว่าหุ้นเหล่านี้ ก็เหมาะที่จะเอาไปทำการบ้านกันต่อนะ อย่าซื้อตามโดยที่ไม่ศึกษาเพิ่มน้า เอาไว้เป็นไอเดียไปต่อยอดจะดีที่สุดจ้า บทความจาก GabGrowth
1. Grab ($GRAB)
Grab กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรราว 700 ล้านคน พร้อมทั้งมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและระดับรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทกำลังรุกเข้าสู่ธุรกิจหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่ บริการเรียกรถ ส่งอาหาร และธนาคารดิจิทัล โดยกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนในภูมิภาคนี้ รวมถึงแอดด้วย 😂
ผมมองว่านี่คือช่วงเวลาที่น่าลงทุนใน Grab อย่างยิ่ง เพราะบริษัทกำลังเข้าใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญด้านความสามารถในการทำกำไร แม้ในอดีตจะมีคำถามเกี่ยวกับความสอดคล้องระหว่างผลิตภัณฑ์กับตลาด (product-market fit) แต่ปัจจุบันข้อกังวลเหล่านั้นเริ่มไม่เป็นประเด็นแล้ว
หาก Grab สามารถขยายธุรกิจด้านบริการการเงินดิจิทัลได้สำเร็จเช่นเดียวกับที่ทำได้ในธุรกิจเรียกรถและส่งอาหาร ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นโครงข่ายหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แนวโน้มการเติบโตระยะยาวของ Grab ยังมีอีกหลายทศวรรษ และผมมองว่าการเข้าซื้อกิจการ GoTo จะเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้ Grab สามารถครองตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีประชากรมากถึง 40% ของทั้งภูมิภาคได้อย่างแข็งแกร่ง
รายได้รวมของ Grab เติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะธุรกิจส่งอาหาร (Deliveries) ที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นแหล่งรายได้หลักในปี 2023 ขณะที่รายได้จากบริการทางการเงินก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นอย่างชัดเจน.

2. Sea Limited ($SE)
Sea เป็นบริษัทที่มีโครงสร้างธุรกิจแบบสามแกนหลัก ซึ่งผมเชื่อว่าทั้ง 3 ส่วนต่างมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวนับหลายสิบปี
🎮Garena ซึ่งเป็นธุรกิจเกมของบริษัทเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้งในแง่ของยอดการจองเกม (bookings), จำนวนผู้ใช้งานรายวัน (DAUs) และเกม Free Fire ยังคงเป็นเกมมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก
🟧Shopee ถือเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีอำนาจเหนือตลาดอย่างแท้จริง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่า 50% ซึ่งทำให้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และเหมือนเคย แอดคือลูกค้า 555
💰SeaMoney ซึ่งเป็นธุรกิจบริการทางการเงิน เติบโตจากรายได้เป็นศูนย์จนแตะระดับ 2.1 พันล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 5 ปี โดยยังคงขยายสินเชื่อที่ปล่อยออกไปในอัตรา 65% ต่อปี พร้อมรักษาอัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำที่ 1.2%
แม้ Sea จะมีรายได้รวมแตะเกือบ 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 แล้ว แต่ผมยังเชื่อว่านี่เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการสร้างรายได้จากระบบนิเวศของบริษัท และภายใน 2 ปีข้างหน้า Sea มีแนวโน้มจะกลายเป็นเครื่องผลิตกระแสเงินสดอย่างแท้จริง
Sea Limited มีการเติบโตแข็งแกร่งในทุกธุรกิจปี 2024 โดยรายได้จากอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น 37.9%, บริการทางการเงินเติบโต 63.9% และธุรกิจเกมเพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

3. Robinhood ($HOOD)
ความสามารถในการขับเคลื่อนธุรกิจของ Robinhood นั้นโดดเด่นเกินกว่าที่ผมเคยเห็นในบริษัทที่มีขนาดระดับนี้ หลายคนมองว่า Robinhood เป็นเพียงแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ ซึ่งก็ไม่ผิดนัก
รายได้หลักของบริษัทในปัจจุบันยังคงมาจากธุรกรรมการซื้อขาย 💹 และผันผวนตามจิตวิทยาของนักลงทุน โดยประมาณ 40% ของรายได้จากธุรกรรมทั้งหมดมาจากการซื้อขายคริปโต ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้ที่ขึ้นอยู่กับวัฏจักรสภาพคล่องอย่างชัดเจน ส่งผลให้ตลาดยังคงมอง Robinhood เป็นธุรกิจที่มีลักษณะวัฏจักร (cyclical) ในระยะอันใกล้
อย่างไรก็ตาม ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า Robinhood จะกลายเป็น แพลตฟอร์มการเงินแบบครบวงจร 💼 โดยรวมทั้งการซื้อขายหลักทรัพย์ 📊 การวางแผนเกษียณ 🧓 คริปโต 🪙 ออปชัน 📉 บัตรเครดิต 💳 ระบบสมาชิก 🧾 และบริการธนาคาร 🏦
Robinhood จึงเป็นบริษัทที่ถูกประเมินต่ำกว่าศักยภาพในเชิงโครงสร้างอย่างชัดเจน ด้วยผลิตภัณฑ์การเงินที่ใช้งานง่าย ✅ ตอบโจทย์ผู้บริโภค 👥 อินเทอร์เฟซระดับโลก 🖥️ และทีมที่มุ่งเน้นการปฏิบัติเป็นหลัก ⚙️
เมื่อ Robinhood สามารถขยายฐานสินทรัพย์ของลูกค้า 💼 สร้างรายได้ต่อผู้ใช้ให้เพิ่มขึ้น 📈 และขยายบริการไปต่างประเทศ 🌎
บริษัทจะมีโอกาสกลายเป็น “Vanguard แห่งยุคใหม่” สำหรับกลุ่มนักลงทุนรายย่อยทั่วโลก 🚀
แม้บางคนอาจมองว่าเป็นเพียงคำโฆษณา แต่ข้อมูลจริงนั้นชัดเจน:
Robinhood มีแหล่งรายได้แยกกันถึง 9 ช่องทาง ซึ่งแต่ละช่องทางสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี เติบโตจากปีก่อนหน้าที่ทำได้เพียง 5 ช่องทาง 💰📊

4. Tesla ($TSLA)
นี่อาจเป็นหุ้นที่ สร้างความถกเถียงมากที่สุด ในบรรดา 5 ตัวเลือก และถูกมองว่าเป็น การลงทุนสวนกระแส (contrarian) ในเวลานี้
นักวิจารณ์จำนวนมากชี้ไปที่ ยอดขายรถ EV ที่ชะลอตัว 📉, ความสนใจของ Elon ที่ดูจะกระจัดกระจาย 🤯, ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) ที่ยังดูห่างไกลจากความจริง, ขณะที่ Waymo นำหน้าอยู่ไกล และ หุ่นยนต์อาจกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ 🤖 หากเชื่อตามเสียงส่วนใหญ่ใน X (Twitter) ภาพอนาคตของ Tesla อาจดูหม่นหมองทีเดียว
แต่ Tesla เป็นบริษัทที่พิสูจน์มาแล้วหลายครั้งว่าความคิดของนักวิจารณ์อาจผิดมหันต์ ตั้งแต่วันก่อตั้ง บริษัทถูกมองว่าจะถูกกลืนโดยคู่แข่ง แต่กลับกลายเป็นว่า Tesla ผลิตรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกในปี 2023 และ 2024 🏆
ในประเด็นที่ว่า Elon สนใจเรื่องอื่นมากเกินไป เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ — เขาเคยทำ SpaceX, Neuralink, Twitter และแม้แต่ Dogecoin แต่ทิศทางของธุรกิจก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะเขา ล้อมรอบตัวเองด้วยทีมคุณภาพสูง และ มอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ Waymo อาจดู “ล้ำหน้า” กว่าในแง่ของ การใช้แผนที่จำกัด (geo-fenced robotaxis) 🗺️ แต่ Tesla กำลังสร้างระบบที่สามารถขยายได้ระดับโลก โดยใช้แนวทาง กล้องและ AI แบบเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผ่านรถหลายล้านคัน
นักวิจารณ์บอกว่า หุ่นยนต์จะกลายเป็นสินค้าทั่วไป 🤖 แต่พวกเขามองข้ามว่า Tesla ใช้โมเดลแบบผสานแนวดิ่ง (vertical integration), สร้างฮาร์ดแวร์ AI เอง (Dojo) 🧬 และ มีข้อมูลจากโลกจริงในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ 🌍📊
“Prototype สร้างง่าย แต่ Production คือของจริง” 🏭
Tesla สร้าง Roadster เพื่อระดมทุนให้ Model S
Model S เป็นทุนให้ Model 3/Y
Model 3/Y เป็นรากฐานให้กับแบตเตอรี่, Dojo, CyberCab และ Optimus
ทุกก้าวที่เคยถูกสงสัย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นการเติบโตใหม่ 🌊
และแม้ว่าผมอาจเข้าใจผิดในทุกสิ่งที่กล่าวมา
แต่ ผมยินดีที่จะรับความเสี่ยงนั้น เพื่อแลกกับโอกาสมหาศาลที่ Tesla ยังมีให้ 🚀

5. Mercado Libre ($MELI)
Mercado Libre คือผู้นำแบบไร้ข้อกังขา ในอีคอมเมิร์ซและ FinTech ของภูมิภาคลาตินอเมริกา
บริษัทเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดด้าน FinTech ในภูมิภาคนี้ โดยมี ผู้ใช้งานมากกว่า 56 ล้านบัญชี 👥📱 ขณะที่ มูลค่าธุรกรรมรวม (TPV) เติบโตในอัตรา มากกว่า 30% ต่อปี 💸📈 พร้อมกับการขยายตัวของการใช้งานอีคอมเมิร์ซและบัญชีธนาคารที่ยังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาคนี้ 🏦🌐
นี่คือธุรกิจที่ยอดเยี่ยมภายใต้การนำของ ผู้ก่อตั้ง-ซีอีโอระดับโลก 👤🌟 โดยบริษัทสามารถ เติบโตรายได้เฉลี่ยปีละ 47% ต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี และปัจจุบันสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจ ได้แก่ ROE ที่ 29% และ ROCE ที่ 25% 💥📊
ด้วยแรงหนุนจาก การขยายตัวของชนชั้นกลาง และ โครงสร้างประชากรที่เอื้อต่อการเติบโต บริษัทจึงมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับ สองหลักต่อเนื่องไปอีกนับทศวรรษข้างหน้า 🚀📆

สุดท้ายนี้ ไม่ใช่บทความชี้ชวนการลงทุนน้า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน ถ้ามีบทความน่าสนใจอีก แอดจะเอามาแปลให้อ่านกันสนุกๆอีกค้าบ 🔥